สาวพิษณุโลกเหยื่อธุรกิจ ข้าวกล่อง โผล่แฉกลโกง โดนหลอกลงทุนทำส่งโรงงาน จ่ายเงินค่าเปลี่ยนสัญญา 20,000 ซื้ออุปกรณ์ 100,000 บาท ทำได้ 4 วัน รู้ตัวว่านำข้าวไปแจกชาวบ้าน ทิ้งแม่น้ำ ไม่ได้ส่งโรงงานจริง จึงถอนตัวไม่ต้องสูญเงินมากหลายแสน เหมือนเหยื่ออีกหลายราย
ข้าวกล่อง / จากกรณีนางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี และนายวีรวัฒน์ กุยแก้ว ชาว ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ได้สัญญาสัมปทานทำอาหารและน้ำดื่มกับบริษัทแห่งหนึ่ง โดยมีระยะเวลาสัญญาจ้าง 5 ปี ในการผลิตข้าวกล่องวันละ 10,000 กล่อง น้ำดื่มบรรจุขวด วันละ 10,000 ขวด และไข่ต้มวันละ 30,000 ฟอง เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. สัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. หลังทำข้าวกล่องเสร็จ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยง รวมทั้งไม่รับข้าวกล่อง ที่ทำไว้ไปส่งโรงงาน ต้องสูญเงินค่าทำสัมปทาน ทั้งค่าขวดบรรจุน้ำดื่มรวม 106,000 บาท ตัดสินใจไปแจ้งความที่สภ.พญาแมน ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เมื่อวันที่ 7 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุการณ์ชาวอุตรดิต์ถูกหลอกให้ทำข้าวกล่องส่งโรงงาน โดยมีหญิงสาวชาวอุตรดิตถ์รายหนึ่ง มาติดต่อให้ทำข้าวกล่องส่งโรงงานนับหมื่นกล่อง แต่เมื่อทำจริงแล้วกลับไม่มารับ ทำให้สูญเงินลงทุนจำนวนมาก
โดยในพื้นที่จ.พิษณุโลก ก็มีผู้เสียหายรายหนึ่ง ชื่อน.ส.อำภาพร ดอนคำไพ หรือ มด อายุ 31 ปี ซึ่งเคยตกเป็นเหยื่ออีกรายหนึ่ง ที่เคยหลงกลไปร่วมธุรกิจทำข้าวกล่องส่งโรงงานที่ จ.อุตรดิตถ์ เมื่อกลางปี 2560 แม้จะไหวตัวถอนตัวออกมาได้ทัน แต่ก็สูญเงินไป 100,000 บาท โดยน.ส.อำภาพร ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้ประชาชนรับทราบ รู้เท่าทัน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ
Loading...
กระทั่งมีโอกาสไปที่บ้านคุณอิ๋วและเห็นคนทำกับข้าวกัน คุณอิ๋วบอกว่า ทำกับข้าวส่งโรงงานในอุตรดิตถ์วันละ 10,000 กล่อง ได้สัมปทานมา ช่วงนั้นจึงถูกชักชวนว่า ให้มาร่วมทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงานกัน จะมีผลตอบแทนที่ดีมาก
กลางปี 2560 จึงตัดสินใจร่วมธุรกิจ โดยต้องไปทำข้าวกล่องที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เริ่มจากต้องทำค่าเปลี่ยนสัญญาจำนวนเงิน 20,000 บาท และค่าซื้ออุปกรณ์ทำกับข้าว ที่ต้องซื้อกับคุณอิ๋ว จึงโอนเงินให้ไปจำนวน 100,000 บาท ซึ่งทุกอย่างต้องซื้อจากคุณอิ๋ว ได้หม้อ 20 ใบ เตา 10 เตา (หลังจากเลิกสัญญา ได้หม้อหุงต้มกับมา 5 ใบ กับเตาแก็ส 2 ใบ) เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.60
จากนั้นผ่านไปประมาณเดือนครึ่งช่วงเดือนส.ค.60 จึงเริ่มต้นทำข้าวกล่องอย่างจริงจัง โดยไปเช่าบ้านอยู่ที่พญาแมน จ.อุตรดิตถ์ เดือนละ 5,000 บาท เพื่อทำธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงาน โดยว่าจ้างคนในพื้นที่มาร่วมทำกับข้าว เริ่มจากวันละ 100-200 กล่อง ราคาขายกล่องละ 50 บาท ซึ่งเริ่มต้นที่ทำข้าวกล่องส่งให้ ยังได้เงินกลับคืนมา ลงทุนค่าวัตถุดิบค่าแรงวันละประมาณ 5,000 บาท ได้เงินกับมาวันละ 7,000-9,000 บาท
โดยทำช่วงแรกมีทั้งมีคนมารับถึงบ้านเช่าของตน บางวันก็ให้ไปส่งที่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และเมื่อทำข้าวกล่องส่งมาได้ 4 วัน เริ่มสะกิดใจ เพราะตามไปถามและได้ข้อมูลจากชาวบ้านว่า ข้าวกล่องที่ตนทำไปนั้นไม่ได้นำไปส่งโรงงานใดๆ เลย
แต่กลับให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านนำไปแจกให้กับชาวบ้านในพื้นที่ วันไหนข้าวกล่องแจกไม่หมด ก็จะนำไปทิ้งแม่น้ำแถวนั้น จึงรู้ตัวว่าไม่ได้ทำข้าวกล่องส่งโรงงานจริง น่าจะเป็นกระบวนการอะไรสักอย่าง จึงถอยออกมา และบอกกับคุณอิ๋วว่า ไม่ทำแล้วธุรกิจข้าวกล่องส่งโรงงาน อยากกลับไปทำธุรกิจที่บ้าน เพื่อที่จะไม่ถลำลึกลงทุนเพิ่มอีก
“ตอนนั้นคุณอิ๋วเสนอมาว่า มีให้ทำสัญญาทำข้าวกล่องส่งโรงงานอีก 10,000 กล่อง แต่ต้องทำสัญญาอีก 200,000 บาท และต้องลงทุนอีกจำนวนมาก จึงบอกเลิก ตอนนั้นได้ค่าเปลี่ยนสัมปทานกลับคืนมา 20,000 บาท ส่วนเงินลงทุนค่าอุปกรณ์ 100,000 บาทนั้น ได้กลับมาแค่หม้อแกง 5 ใบ กับเตาแก๊สหุงต้ม 2 ใบ ต่อมาจึงกลับมาที่พิษณุโลก และบอกกับคนที่รู้จักกันว่าโดนหลอกนะ กระทั่งวานนี้เห็นข่าวที่อุตรดิตถ์จึงรู้ว่าเป็นคนเดียวกันที่มาหลอกดิฉัน” น.ส.อำภาพร กล่าว
“ถือเป็นบทเรียนอย่างมากที่ไว้ใจคนที่เราไม่ได้รู้จักมานาน เราไม่ศึกษาข้อมูลให้ดีว่าเขาส่งที่ไหน การทำสัญญา ก็ไม่เห็นตัวสัญญา เสียเงินไปประมาณ 100,000 บาท ที่ออกมาพูดวันนี้ เพราะไม่อยากให้ใครไปเชื่อการทำธุรกิจข้าวกล่องว่ามันมีจริง มันไม่มีโรงงานที่จะมารับข้าวกล่อง ไม่มีจริง เราเป็นคนพิษณุโลก เขาจะบอกว่าโรงงานอยู่ที่อุตรดิตถ์ ส่วนคนอุตรดิตถ์เขาก็จะบอกว่าโรงงานอยู่ที่พิษณุโลก” น.ส.อำภาพร กล่าว





khaosod.co.th
No comments:
Post a Comment