อัจฉริยะ บุกคลินิกจำลองตรวจภายใน พบข้อมูลสำคัญเตียงขาหยั่ง หมอรับชอบคนไข้!

จากรณีหญิงสาวจำนวนมากได้ร้องเรียนว่า ถูกสูตินรีแพทย์ ลวนลาม อนาจาร ข่มขืนในคลินิกระหว่างตรวจภายใน ที่ จ.นครสวรรค์ โดยมี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมาระบุว่า อยากขอตรวจสอบคดีดังกล่าว เนื่องจากมีพิรุธหลายประการนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพร้อม พญ.ของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชกรรม




เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังพบข้อสงสัยหลายอย่างเกี่ยวกับการข่มขืน และพบว่ามีการจ่ายเงินถึง 3 แสนบาท จากนั้นได้เดินทางไปคลินิกเพื่อพบ นพ.จักรพงษ์ โดยมีการจำลองสถานการณ์ภายในห้องตรวจภายใน และมีการพูดคุยกันเป็นส่วนตัวโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที นั้น

นายอัจฉริยะ กล่าวว่า จากการจำลองเหตุการณ์จริงนั้น มีความเป็นไปได้ที่ ทางหมอจะสามารถล่วงละเมิดคนไข้ได้ หากเรายืนอยู่บริเวณขาหยั่ง จะพบว่า สามารถกอด จูบ ได้ หรืออาจจะล่วงละเมิดทางเพศได้ แต่จะต้องยืนเท่านั้น ส่วนคนไข้หากอยู่ด้านใน หากถูกล่วงละเมิดจริงก็คาดว่าจะต้องเป็นการสมยอม เพราะหากไม่สมยอมจะสามารถต่อสู้หรือตะโกนขอความช่วยเหลือได้ และหากปิดไฟก็พบว่าในห้องไม่ได้มืดสลัว ยังมีแสงสว่างพอที่จะเห็นภายในห้องได้ ส่วนเรื่องแผล รอยฟกช้ำของคนไข้ที่บริเวณหน้าขา จากการตรวจสอบเตียงแล้ว ก็สามารถเป็นไปได้เพราะ อาจจะไปกระทบกับเตียงขาหยั่ง ทำให้ช้ำได้

นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า หมอยอมรับ ว่า รู้สึกชอบพอเป็นการส่วนตัวกับคนไข้ เนื่องจาก คนไข้ได้เข้ามารักษากับตนจำนวน 3 ครั้ง ก็ได้มีการพูดคุยกัน ซักประวัติของคนไข้และรู้สึกถูกใจ จึงได้มีการพูดคุยกันทาง แอพพลิเคชั่นไลน์ต่อ ส่วนเรื่องที่ให้เงินจำนวน 3 แสนบาทนั้น หมอขี้แจงว่า คนไข้ได้เรียกร้องให้หมอรับผิดชอบ จึงเป็นสาเหตุให้ต้องโอน เพราะคิดว่า เรื่องจะจบ และไม่คิดว่าจะบานปลายขนาดนี้ ส่วนเรื่องที่ชี้แจงว่า มีผู้เสียหายประมาณ 50 คนนั้น ขณะนี้ตนยังยืนยันว่าไม่เห็น ว่าผู้เสียหายจะมีจำนวนดังกล่าว

นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ส่วนคนไข้ทั้ง 2 คนที่ออกมาพูดว่าเป็นฝี ไปรักษากับหมอ แล้วถูกลวนลามนั้น จากที่ตรวจสอบเอกสาร พบว่า ไม่เป็นความจริง ไม่ได้เป็นการเลียที่บริเวณฝีแต่เป็นการเลียที่บริเวณใบหู ในลักษณะของคนไข้ทั้ง 2 คนนี้คือ ได้รับเงินไปแล้ว และนำเรื่องที่ไม่เป็นความจริงมาพูด ซึ่งตนไม่ทราบว่ามีเจตนาอะไร ส่วนเรื่องสรรพนามที่หมอเรียกคนไข้ว่า ที่รัก เป็นสรรพนามที่เรียกคนไข้ตามปกติ ไม่ได้มีเรื่องชู้สาวแต่อย่างใด



จำลองสถานการณ์


ด้าน พญ.ของขวัญ กล่าวว่า ในครั้งแรก คนไข้ได้เดินทางเข้ามาตรวจครั้งแรก คือ คนไข้มีอาการปวดท้องเมื่อไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่ไม่หายจึงเดินทางเข้ามารักษาที่คลินิก ทางหมอจึงสงสัยว่าอาจจะมีการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานด้านลึก จึงมีการใช้เครื่องอัลตราซาวด์สอดเข้าไปในช่องคลอด

ทางด้านของภาคปฏิบัติทั่วไปการใส่เครื่องอัลตราซาวด์ ไปในบริเวณช่องคลอด แพทย์ จะต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ทำกันทั่วโลกเพื่อป้องกันความสะอาด ไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งขึ้นอยู่กับทางหมอว่าได้มีการชี้แจงกับคนไข้หรือไม่ว่าจะต้องมีการใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งเครื่องอัลตราซาวด์ในคลินิกเป็นหัวที่มีขนาดใหญ่ จะต้องใส่ไปในบริเวณช่องคลอดซึ่งหากไม่มีการแจ้ง คนไข้อาจจะเข้าใจผิดได้ว่าถูกล่วงละเมิดทางเพศ

Loading...

พญ.ของขวัญ กล่าวอีกว่าโดย ทางหมอจึงมีการวินิจฉัยว่าคนไข้เป็นการติดเชื้อเชิงลึกของอุ้มเชิงกราน จึงได้รักษาและให้ยาปฏิชีวนะ โดยการรักษา 2 ครั้งที่เหลือเป็นการติดตามอาการ ส่วนเรื่องคนไข้ที่เป็นฝีแล้วมารักษากับหมอ และบอกว่าถูกหมอเลียนั้น คนไข้เป็นฝีบาน์โทลีน ซีสต์ หากมีการล่วงละเมิดหรือแม้แต่ไปเลียตามขาจะเกิดความเจ็บปวดมาก เพราะเนื้อเยื่อ บริเวณนั้นบอบบาง มีเส้นประสาทจำนวนมาก หากคิดตามหลักความเป็นจริงคงจะไม่มีใครกล้าเลียหนองที่ออกมาจากฝีที่แตกแล้วแน่นอน

khaosod.co.th